Key Takeaways
เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เวลาเข้าช่วงหน้าร้อนทีไร ทุกบ้านจะต้องปวดหัวกับบิลค่าไฟทุกพุ่งสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงกับภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน ดังนั้น ถ้าบ้านไหนไม่อยากช็อกกับบิลค่าไฟ จะต้องรู้วิธีประหยัดไฟในบ้านเบื้องต้น เพราะเป็นหนึ่งในหนทางที่สามารถช่วยประหยัดเงินค่าไฟได้จริง วันนี้ IRIS OHYAMA เลยจะมาแชร์วิธีการประหยัดไฟแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ว่าแต่จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น ก็ตามมาดูกันเลย
ภาพ: การถอดปลั๊ก
เวลาไม่ได้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า หลายคนมักเลือกกดปิดเอาไว้เฉย ๆ โดยที่ไม่ได้ถอดปลั๊ก ซึ่งการกดปิดสวิตช์แต่ไม่ถอดปลั๊ก จะทำให้ยังคงมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านไปมาอยู่ ซึ่งถือเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ และนอกจากจะทำให้ค่าไฟแพงแล้ว ยังเสี่ยงกับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย
เวลาเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณที่มีแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย เพราะเป็นหนึ่งสิ่งที่ช่วยการันตีว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น ไม่ได้ใช้พลังงานมากจนเกินไปนั่นเอง
ภาพ: การรีดผ้า
ถือเป็นเรื่องที่พ่อบ้านแม่บ้านทุกคนควรรู้ เนื่องจากการซักผ้าทีละหลายตัว สามารถช่วยลดจำนวนรอบในการซักผ้าลง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้จริง รวมถึงการรีดผ้าที่เตารีดจะกินไฟมากในช่วงแรกของการเปิดใช้งาน ดังนั้น ถ้าบ้านไหนอยากประหยัดค่าไฟ จำเป็นต้องรีดผ้าครั้งละหลาย ๆ ชิ้น
บ้านไหนชอบซื้อของกินมาตุนไว้ในตู้เย็น จนทำให้ตู้เย็นแน่นและไม่เหลือพื้นที่ว่างเลย จะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไปในการลดอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้งไว้ ดังนั้น ทางที่ดีทุกบ้านควรหมั่นจัดระเบียบตู้เย็นเสมอ เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างและทำให้ตู้เย็นทำความเย็นง่ายขึ้นนั่นเอง
ภาพ: การเปิดตู้เย็น
อีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟที่หลายคนคาดไม่ถึง คือ การเปิดตู้เย็นเท่าที่จำเป็น เพราะการเปิดตู้เย็นบ่อย ๆ จะทำให้ตู้เย็นสูญเสียความเย็น จนต้องทำงานหนักขึ้น และส่งผลให้ค่าไฟขึ้นแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น สมาชิกทุกคนในบ้านควรช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อช่วยให้บิลค่าไฟไม่พุ่งสูงจนเกินไป
ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยในปัจจุบันที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงความแรงของแสงแดดในช่วงกลางวันที่ร้อนแบบสุด ๆ ทำให้ผนังบ้านดูดซับความร้อนเข้ามามากขึ้น เราจึงควรปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน เพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้านและช่วยให้แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป
ภาพ: กาต้มน้ำร้อน
แน่นอนว่าเมื่อเราเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนไว้ในห้องที่กำลังเปิดแอร์ จะทำให้อุณหภูมิในห้องเพิ่มสูงขึ้น และทำให้แอร์ทำงานหนักเกินความจำเป็น ทางที่ดีทุกบ้านควรเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นไว้นอกห้อง อย่างไมโครเวฟหรือกระติกน้ำร้อน ซึ่งเป็นอีกวิธีการประหยัดไฟที่ช่วยได้เยอะมาก ๆ
เนื่องจากหลังปิดแอร์ภายในห้องจะยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่ หากเราเลือกปิดแอร์ก่อนออกจากบ้าน จะทำให้เราไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความเย็นเหล่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า เราจะต้องตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนตื่นนอน เพราะในขณะที่เรากำลังเตรียมตัวออกจากบ้าน อุณหภูมิภายในห้องจะยังเย็นอยู่นั่นเอง
ภาพ: การล้างแอร์
การล้างแอร์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้แอร์เย็นมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลงอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดไฟได้ดีมาก ๆ ดังนั้น ถ้าใครอยากประหยัดค่าใช้จ่ายตรงนี้ ก็ควรหมั่นล้างแอร์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน
ทุกคนคงรู้ดีว่ายิ่งเปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำมากเท่าไร ก็ยิ่งเปลืองไฟมากเท่านั้น โดยเฉพาะในหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงมาก ๆ หลายคนจึงแนะนำให้เปิดแอร์คู่กับพัดลม เพื่อช่วยให้แอร์ทำงานน้อยลง โดยการเปิดแอร์ประมาณ 26-30 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมช่วย ทุกคนในบ้านจะยังรู้สึกเย็นสบาย แถมยังประหยัดไฟได้ดีสุด ๆ
ภาพ: พัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T
อยากนอนเปิดแอร์เย็น ๆ แต่ก็กลัวค่าไฟพุ่งแบบฉุดไม่อยู่ ต้องพึ่งไอเทมสุดเจ๋งอย่าง พัดลมหมุนเวียนอากาศ จาก IRIS OHYAMA ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยให้แอร์ในบ้านของคุณเย็นสบายและทั่วถึงมากขึ้น แถมยังเป็นวิธีประหยัดไฟที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เพียงแค่เปิดแอร์ไปพร้อม ๆ กับไอเทมสุดล้ำชิ้นนี้ที่มีฟังก์ชันการหมุนแบบพิเศษ เสริมด้วยแรงลมอันทรงพลังที่พุ่งได้ไกลกว่าพัดลมทั่วไป จึงช่วยประหยัดค่าไฟได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของพัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T
สามารถหาซื้อพัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T จาก IRIS Ohyama Thailand ได้ที่
หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
IRIS Ohyama Thailand
ทั้งหมดนี้คือ 10 วิธีประหยัดไฟแบบง่าย ๆ ที่สามารถช่วยลดภาระค่าไฟในแต่ละเดือนได้ ซึ่งเป็นเทคนิคดี ๆ ที่ทุกบ้านควรรู้เอาไว้ จะได้เอาไปปรับใช้ให้เข้ากับบ้านของตัวเอง และหากใครชอบอ่านคอนเทนต์ดี ๆ ที่เต็มไปด้วยประโยชน์และสาระน่ารู้แบบนี้ ก็อย่าลืมไปกดไลก์ Facebook: IRIS OHYAMA Thailand เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชันต่าง ๆ เพิ่มเติม แถมยังช่วยให้ไม่พลาดบทความและคอนเทนต์ที่มาพร้อมความรู้ดี ๆ แบบนี้อีก
Customer Center: 02-018-6102
