Key Takeaways
ถ้าใครไม่อยากป่วยไม่อยากไอ ต้องรู้วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ๆ ในยุคนี้ เพราะคนไทยจะต้องเจอกับปัญหามลพิษทางอากาศที่เรื้อรังแบบนี้ทุกปี จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนทุกบ้านควรรู้เอาไว้ วันนี้ IRIS OHYAMA เลยจะเอาข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวกับ PM 2.5 มาฝาก พร้อมแชร์เทคนิคการป้องกันฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้ทุกคนเอาไปประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพและป้องกันตัวเองรวมถึงคนในครอบครัวให้ดีที่สุด
ภาพ: ฝุ่น PM 2.5
ขับรถบนทางด่วนทุกวันแต่ทำไมวันนี้วิวข้างหน้าดูขมุกขมัวกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้กรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ ประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางผมมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เล็กมาก ๆ จนขนจมูกมนุษย์ไม่สามารถกรองได้ ทำให้ฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมาก ๆ นั่นเอง
ภาพ: การเผาขยะ
ภาพ: ผลกระทบจาก PM 2.5
ด้วยขนาดของฝุ่น PM 2.5 ที่เล็กมาก จนสามารถแพร่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ อย่างปอดและถุงลม อีกทั้งยังสามารถแทรกตัวเข้าไปสะสมอยู่ในกระแสเลือดได้อีกด้วย ซึ่งหากเราไม่รู้จักวิธีการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ให้ดี จะทำให้ร่างกายสัมผัสกับ PM 2.5 มากเกินไป
จนทำให้มีอาการจาม ไอ แสบตา ตาแดง หรือเป็นลมพิษได้ และถ้าร่างกายได้รับ PM 2.5 เข้าไปเรื่อย ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคมะเร็งปอด
ภาพ: การเช็กค่าฝุ่น PM 2.5
ทางที่ดีก่อนออกจากบ้านทุกครั้งทุกคนควรเช็กข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ PM 2.5 ซะก่อน ว่าวันนี้คุณภาพอากาศด้านนอกเป็นยังไง เพื่อที่จะวางแผนการใช้ชีวิตให้เหมาะสม อย่างเช่น ถ้าวันไหนค่าฝุ่น PM 2.5 สูง แล้วต้องเดินทางนาน ๆ ก็ควรเลือกเดินทางด้วยยานพาหนะแบบปิด แทนการนั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ร่างกายสัมผัสกับ PM 2.5 ให้น้อยที่สุด
ถ้าวันไหนตื่นมาเช็กข้อมูลสภาพอากาศเบื้องต้น แล้วเจอว่าวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงมาก ๆ ก็ไม่ควรเปิดประตูหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพราะจะทำให้จำนวนฝุ่น PM 2.5 ในบ้านเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ถ้าวันไหนเช็กค่า PM 2.5 แล้วเจอว่าสูง ก็ควรปิดบ้านให้มิดชิดเพื่อเป็นการป้องกันฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง
ภาพ: กิจกรรมกลางแจ้ง
สำหรับสายกิจกรรมที่ต้องหาอะไรทำนอกบ้านตลอดเวลา อาจจะต้องทำใจพักการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ค่า PM 2.5 สูง ๆ ไปก่อน ไม่ว่าจะเป็น การเดินในสวนสาธารณะหรือการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่ทำให้เหนื่อยและหายใจแรง จะทำให้ร่างกายได้รับฝุ่นพิษ PM 2.5 มากขึ้น
ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นยังไง ทุกคนก็ยังคงต้องใช้ชีวิตกันต่อไป เพราะเรายังต้องไปทำงานหรือไปทำธุระสำคัญ ๆ ข้างนอกอยู่ดี แต่เพื่อให้ร่างกายได้รับ PM 2.5 น้อยที่สุด ทุกคนจึงควรสวมหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้จริง อย่างหน้ากาก N95 หรือ KF94 ซึ่งเป็นวิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
ภาพ: การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ
เมื่อเราจำเป็นต้องออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูง พอกลับมาถึงบ้านควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อชำระล้างฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณโพรงจมูก เพื่อลดอาการคันจมูก คัดจมูก และอาการระคายเคืองต่าง ๆ ให้น้อยลง ซึ่งเป็นการป้องกันฝุ่น PM 2.5 แทรกซึมเข้าสู่ภายในร่างกาย
อีกหนึ่งวิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่ทั้งง่ายและสะดวกสุด ๆ นั่นคือการใช้เครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน เพราะด้วยขนาดของฝุ่น PM 2.5 ที่เล็กจิ๋วมาก ๆ ทำให้เวลาเปิดประตูบ้าน ประตูห้อง หรือระเบียงห้อง จะต้องมี PM 2.5 ลอยเข้ามา ดังนั้น การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันกรองฝุ่นจิ๋วนี้ จึงสามารถช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ดีมากยิ่งขึ้น
ภาพ: พัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T
ใครรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจกับการเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศเพียงอย่างเดียว เพราะกลัวว่าอากาศบริสุทธิ์ที่ได้จะกระจายตัวไม่ดีเท่าที่ควร ก็ควรเสริมการทำงานด้วยตัวช่วยเจ๋ง ๆ อย่างพัดลมหมุนเวียนอากาศ IRIS OHYAMA ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ให้ดีกว่าเดิม ด้วยเทคนิคการกระจายและหมุนเวียนอากาศภายในห้องได้อย่างทั่วถึง
ภาพ: พัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T
ฟังก์ชันและจุดเด่นของพัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T
สามารถหาซื้อพัดลมหมุนเวียนอากาศ รุ่น PCF-SC15T จาก IRIS Ohyama Thailand ได้ที่